วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

การตลาดไม้กฤษณาของโกดังใหญ่สิงคโปร์ที่มีไม้ในสต็อคแต่ละรายไม่ต่ำกว่ารายละยี่สิบสามสิบตันคือ ช่วงใดที่ไม้กฤษณาในตลาดมีราคาแพงอย่างทุกวันนี้ พวกเขาจะทุ่มตลาดเทขายทำเงินมหาศาล และในที่สุดราคาก็จะเริ่มตกตามกลไกตลาด และเมื่อราคาตกลงมามากพวกเขาก็จะระดมซื้อไม้เก็บกักไว้ในสต็อคโดยทุ่มซื้อจากแหล่งในราคาแสนถูกเพื่อขวางผู้ค้ารายอื่น ทำให้ไม้ขาดตลาดและกลับมาแพงอีกครั้ง และก็ทุ่มเทขายอีก เป็นวงจรแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ น้ำมันกฤษณาก็เช่นกัน

คนในวงการกฤษณาบ้านเราที่ไม่รู้อะไรก็จะตกเป็นเหยื่อกลไกการตลาดขาดทุนกันต่อไป ...... แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลุ่มทุนสิงคโปร์กลัวคือ การปรากฏตัวในตลาดของไม้กฤษณาปลูก ซึ่งแม้จะมีคุณภาพและราคาไม่สูงเหมือนกับไม้ธรรมชาติ แต่ด้วยไม้จากธรรมชาติที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ร่อยหรอลงไปมากจนหายากขึ้นทุกที ทำให้เกิดความผันผวนไม่แน่นอนในการควบคุมกลไกตลาดและการกำหนดราคา ตอนนี้กลุ่มทุนกลุ่มนี้จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีบทบาทในไม้ปลูกและควบคุมปริมาณไม้ปลูกในตลาดเพื่อให้ตนยังคงได้เป็นผู้ควบคุมและกำหนดกลไกตลาดต่อไป


วิศวะ ศรีเพ็ชรกล้า